โทรหาเราได้ตั้งแต่เวลา 9:30am: 0117 313 3300

แผนท่องเที่ยวแบบส่วนตัว เริ่มต้นที่ £182,900 ต่อท่าน (รวมตั๋วเครื่องบิน)

11 วัน South Africa, Zambia, Zimbabwe

เพลิดเพลินไปกับสถานที่สำคัญของแอฟริกาใต้ อย่างเช่น เมืองเคปทาวน์ อุทยานแห่งชาติครูเกอร์ และน้ำตกวิกตอเรีย

วินาทีที่ท่านบินเข้าสู่น่านฟ้าของเคปทาวน์ ท่านจะได้พบกับมนตร์สะกดบางอย่างของเมืองนี้ นับตั้งแต่ Table Mountain ที่ตั้งตระหง่านเหนือตัวเมือง รายรอบไปด้วยทิวทัศน์อันสวยงามของชายฝั่งทะเล หลังเที่ยวชมในตัวเมืองเสร็จแล้ว เราจะพาท่านบินสู่อาณาจักรแห่งธรรมชาติ ณ อุทยานแห่งชาติครูเกอร์ ที่ท่านสามารถพบเห็น เจ้าป่าทั้งห้า (Big 5) ผ่านการท่องซาฟารีภายในบริเวณพื้นที่อนุรักษ์ ถัดจากนั้น พบกับอีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญของทริปที่ท่านจะได้บินตรงไปยังน้ำตกวิคตอเรีย ซึ่งเราลงความเห็นว่า เป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ตระการตาที่สุดบนพื้นพิภพ

ราคานี้รวม :

  • ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ จากประเทศไทย
  • ตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ
  • ค่าอาหารตามมื้อที่ระบุในโปรแกรม
  • ค่าที่พักโรงแรมระดับ 5 ดาว และเต้นกลางป่าสุดหรู (พัก 2 ท่าน/ห้อง)
  • ค่ารถนำเที่ยวและไกด์คนไทยผู้เชียวชาญดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดการเดินทาง
  • ค่าประกันอุบัติเหตุวงเงินท่านละ 1,000,000 บาท

โทรหาเราได้ที่เบอร์ 0117 313 3300 เพื่อเริ่มวางแผนทริปท่องเที่ยวของท่าน

หรือ

แผนการท่องเที่ยว

วันที่ 1- 4 : เคปทาวน์

วันที่ 1 : กรุงเทพฯ - เคปทาวน์
วันที่ 1 : กรุงเทพฯ - เคปทาวน์ Listing Image

ผู้เดินทางพบเจ้าหน้าที่เวย์แฟเรอร์ได้ที่เคานเตอร์เช็กอิน U ประตูทางเข้าที่ 5 อาคารผู้โดยสารเคาน์เตอร์ สายการบินเอธิโอเปียน แอร์ไลน์ (ET) ณ สนามบินสุวรรณภูมิ

01.20 น.

ออกเดินทางสู่สนามบินอาดิสบาบาประเทศเอธิโอเปีย โดยเที่ยวบิน ET629 (ใช้เวลาบินประมาณ 8.45 ชั่วโมง) เพลิดเพลินกับภาพยนตร์หลากหลายกับจอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง และสายการบินฯ มีบริการอาหารคํ่าและอาหารเช้าระหว่างเที่ยวบิน

หมายเหตุ : ให้ท่านจัดกระเป๋าเป้หรือกระเป๋าแบบผ้า (soft bag) เนื่องจากต้องมีบินเที่ยวบินภายในประเทศซึ่ง เป็นเครื่องบินเล็กที่ไม่สามารถบรรจุกระเป๋าใบใหญ่ได้









วันที่ 2 : เคปทาวน์ - Table Mountain - V&A Waterfront - ล่องเรือชมพระอาทิตย์ตกดิน
วันที่ 2 : เคปทาวน์ - Table Mountain - V&A Waterfront - ล่องเรือชมพระอาทิตย์ตกดิน Listing Image

06.05 น.

เดินทางถึงสนามบินอาดิสบาบาแวะเปลี่ยนเที่ยวบิน

08.15 น.

ออกเดินทางสู่เมืองเคปทาวน์ โดยสายการบินเอธิโอเปียน แอร์ไลน์ เที่ยวบิน ET847 (ใช้เวลาบินประมาณ 6.30 ชั่วโมง)

13.55 น.

เดินทางถึงสนามบินเมืองเคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้ นําท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร

บ่าย

นําท่านเดินทางสู่ที่พัก The Commodore Hotel เพื่อเชคอินและออกเดินทางสู่เทเบิ้ลเม้าท์เท่น หรือภูเขาโต๊ะ นําท่านนั่งกระเช้าไฟฟ้าขึ้นสู่เทเบิ้ลเม้าท์เท่น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ หนึ่งในมรดกโลกซึ่งรับรองโดยองค์กรยูเนสโก้ เมื่อปี ค.ศ. 2000 เป็นภูเขาสูงยอดตัดตรงเหมือนกับโต๊ะ (*ทั้งนี้การให้บริการของกระเช้าขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในวันนั้นๆ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของท่านเป็นหลัก*) ขึ้นมาด้านบนมีเส้นทางเดินลัดเลาะไปตามแนวขอบเขา เพื่อให้ท่านได้ชมวิวรอบด้านได้อย่างชัดเจน ไกลไปจนถึงตัวเมืองเคปทาวน์ นําท่านถ่ายรูปกับไลอ้อนเฮด (Lion head) ภูเขาที่มองดูแล้วใครๆ ก็ต้องพูดว่าคล้ายหัวสิงโต ในเวลาที่พระอาทิตย์กําลังจะลับขอบฟ้าภูเขาลูกนี้จะมีสีแดงสวยงามยิ่งนัก

จากนั้นเดินทางสู่ วิคตอเรียแอนด์อัลเฟรด วอเตอร์ฟร้อนท์ (Victory & Alfred Waterfront) เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่อัดแน่นด้วยร้านค้าแบรนด์เนม ซึ่งจะป็นช่วงเวลาอิสระให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย

สมควรแก่เวลานําท่านล่องเรือชมพระอาทิตย์ตกดินในอ่าวเทเบิ้ลเบย์ (Table Bay) พร้อมจิบแชมเปญดื่มดํ่ากับธรรมชาติแห่งเมืองเคปทาวน์ อิสระให้ท่านได้เก็บภาพยามพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าอันเป็นอีกหนึ่งทัศนียภาพที่สวยงามยิ่งแห่งแอฟริกาใต้

คํ่า

รับประทานอาหารคํ่า ณ ภัตตาคาร

วันที่ 3 : Cape Point & Cape Peninsula
วันที่ 3 : Cape Point & Cape Peninsula Listing Image

เช้า

รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม และนําท่านเดินทางชมความงามของแนวชายฝั่งบริเวณ เคปเพนนินซูล่า (Cape Peninsular) ลัดเลาะแนวชายหาดบนเส้นทางโรแมนติก และข้ามยอดเขาอันสวยงามที่ มีชื่อเสียงก้องโลกอย่างแชปแมนพีค (Chapman’s peak) ซึ่งท่านจะได้สัมผัสทัศนียภาพอันแปลกตา จากนั้นนําท่านผ่านชม หมู่บ้านชาวประมง ณ ฮูทเบย์ (Hout Bay) เพื่อนําท่าน นั่งเรือเฟอร์รี่ไปยัง เกาะแมวนํ้า (Seal Island) บริเวณอ่าวฮูทเบย์ ริมมหาสมุทรแอตแลนติก เพื่อชมแมวนํ้าแอฟริกาใต้ หรือพันธุ์เคปเฟอร์ซีล ซึ่งสายพันธุ์นี้จะอาศัยอยู่แคปสองแห่งบนโลก คือที่แอฟริกาใต้และทางตอนใต้ของประเทศออสเตรเลีย ตื่นตาตื่นใจกับฝูง แมวนํ้ามากมายบริเวณรอบเกาะแห่งนี้

บ่าย

นําท่านเดินทางสู่ ชายหาดโบลเดอร์ (Boulder Beach) ชมอาณาจักรของ เพนกวินพันธุ์ แอฟริกัน ที่มีอยู่อย่างมากมายและสีสันที่เราคุ้นตา ด้วยขนาดตัวสูงเกือบหนึ่งเมตร โดยตัวผู้จะมีสีสันมากกว่าตัวเมีย โดยเฉพาะบริเวณขอบตาจะมีสีชมพู ส่วนตัวเมียจะไม่มีลําตัวมีสีดําขาวตัดกัน แต่ตัวเมียมีสีนํ้าตาล และมีขนาดใหญ่กว่า อิสระให้ท่านถ่ายรูปและชมความน่ารักของเหล่าเพนกวินที่เป็นเจ้าของอาณาจักรแห่งนี้

นําท่านเดินทางสู่ แหลมกู๊ดโฮป (Cape of Good Hope) อยู่ในเขตสงวนธรรมชาติ Cape of Good Hope National Reserve ปลายสุดแหลมมีประภาคารขนาดใหญ่จะเห็นรอยตะเข็บที่มหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแอตแลนติกมาบรรจบกันได้ชัดเจนบนผิวนํ้า ซึ่งเป็นเหตุให้บริเวณนี้ท้องทะเลมักมีหมอกลงจัดอากาศแปรปรวน ทั้งนี้เพราะกระแสนํ้าอุ่นและกระแสนํ้าเย็นมาปะทะกันทําให้ยากต่อการเดินทางโดยทางเรือในสมัยโบราณ อิสระให้ท่านเก็บภาพบรรยากาศ ณ จุดชมวิวที่สวยที่สุดที่ Cape Point ให้ท่านได้เก็บภาพปลายสุดของทวีปแอฟริกาตามอัธยาศัย

ได้เวลานําท่านออกเดินทางสู่ Kirstenbosch National Botanical Gardens สวนสวยบนเชิงเขาเทเบิลที่มีอายุกว่า 100 ปี อิสระให้ท่านถ่ายรูป ชมความงามและความอุดมสมบูรณ์ของพันธุ์ไม้ท้องถิ่นของแอฟริกาใต้กว่า7,000 สายพันธุ์และหลังจากนั้นจะนําท่านกลับเข้าเมืองเพื่อรับประทานคํ่า ณ ภัตตาคาร

วันที่ 4 : Winelands
วันที่ 4 : Winelands Listing Image

เช้า - บ่าย

รับประทานอาหารเช้าแสนอร่อยในโรงแรม และนําท่านออกเดินทางไปยังเมืองผลิตไวน์บนหนึ่งในเส้นทางชิมไวน์ที่ดีที่สุดในโลก ในวันนี้ท่านจะได้เพลิดเพลินไปกับการชิมไวน์และเอร็ดอร่อยกับชีสรสเลิศและอาหารกลางวันที่ไร่องุ่นสเตลเลนบอช (Stellenbosch Wine Estate) ท่านจะได้เรียนรู้วิธีการบ่มไวน์ในถังบาเรลล์ พร้อมรับฟังข้อมูลที่น่าสนใจระหว่างการเดินชมห้องเก็บไวน์ชั้นใต้ดิน

วันนี้จะเป็นวันสบายๆ ที่ท่านจะได้ท่องเที่ยวผ่านไร่องุ่นอันอุดมสมบูรณ์และเพลิดเพลินไปกับการชิมไวน์รสชาติเป็นเลิศขณะนั่งพักผ่อนท่ามกลางสายลมเย็นๆ ท่านจะได้เยี่ยมชมมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศและชื่นชมทัศนียภาพอันงดงามของเขตอนุรักษ์ธรรมชาติยอนเคอร์ฮก (Jonkoershoek) และไซมอนเบิร์ก(Simonsberg) สัมผัสกับความเงียบสงบของเมืองที่รายล้อมไปด้วยคาเฟ่อันสวยงาม, ร้านค้าที่เต็มไปด้วยมนต์สเน่ห์ และหอศิลป์ต่างๆ มากมายภายในไร่องุ่นเคป ไวน์แลนด์ (Cape Winelands)อิสระให้ท่านเดินชมไร่องุ่น ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกและเลือกซื้อไวน์คุณภาพได้ตามอัธยาศัยก่อนนําท่านเดินทางกลับสู่ที่พัก

คํ่า

รับประทานอาหารคํ่า ณ ภัตตาคาร

วันที่ 5 : เคปทาวน์ - อุทยานแห่งชาติครูเกอร์

เดินทางสู่อุทยานแห่งชาติครูเกอร์เปิดรับประสบการณ์แคปปิ่งสไตล์เรียบหรู
เดินทางสู่อุทยานแห่งชาติครูเกอร์เปิดรับประสบการณ์แคปปิ่งสไตล์เรียบหรู Listing Image

เช้า

รับประทานอาหารเช้าในโรงแรมและนําท่านมุ่งตรงสู่สนามบิน Cape Town เพื่อขึ้นเครื่องบินภายในประเทศไปยังอุทยานแห่งชาติครูเกอร์

บ่าย

เดินทางถึงสนามบิน Hoedspruitat และนําท่านขึ้นรถจิ๊ป 4 WD แบบตะลุยซาฟารีเกมไดรฟ์ระหว่างทางไปยังสถานที่พัก

เมื่อถึงที่พักจะเป็นช่วงเวลาสําหรับมื้ออาหารกลางวัน หลังจากรับประทานอาหารกลางวันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ท่านสามารถพักผ่อนตามอัธยาศัยดื่มดํ่ากับบรรกาศอันเงียบสงบของที่พัก หรือหากสภาพอากาศอํานวย ท่านอาจจะได้ออกเดินทางเพื่อตลุยป่าส่องสัตว์เลยก็ได้เช่นกัน

คํ่า

นําท่านรับประทานอาหารคํ่าใต้แสงดาวท่ามกลางหมู่มวลพุ่มไม้แห่งแอฟริก

วันที่ 6-7 : อุทยานแห่งชาติครูเกอร์

ท่องซาฟารีส่องสัตว์
Thornicrofts giraffes in South Luangwa National Park in Zambia

เพลิดเพลินกับการท่องซาฟารี 2 วันเต็มที่อุทยานแห่งชาติครูเกอร์ท่านจะได้พบเห็นสัตว์ตระกูลแมวตัวใหญ่ อย่างเช่น สิงโตและเสือต่างๆ ออกล่าเหยื่อ ในช่วงเช้าซึ่งเหมาะอย่างยิ่งแก่ผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพเขต Greater Kruger นั้นมีชื่อเสียงเป็นอย่างยิ่งในเรื่องของเสือดาวและฝูงแรดจํานวนมาก รวมไปถึงหมาป่า สิงโต ช้าง และสัตว์ป่าอื่นๆ อีกนับร้อยสายพันธุ์

สําหรับอาหารกลางวันในช่วงวันของการออกเกมไดรฟ์จะมาป์นแบบปิคนิคตามแนวพุ่มไม้ในอุทยาน เป็นอีกหนึงประสบการณ์ของการรับประทานอาหารที่น่าาจดจํา

วันที่ 8 : อุทยานแห่งชาติครูเกอร์ - ซิมบับเว

น้ำาตกวิคตอเรีย ฟอลส์
Victoria Falls Mosi Oa Tunya waterfall at sunrise in Zambia

เช้า

หลังจากท่านอิ่มเอมกับอาหารเช้าแสนอร่อย ณ สถานที่พัก เราจะนําท่านเดินทางสู่สนามบินเพื่อเดินทางระยะสั้นๆ โดยเครื่องบินเล็กไปยัง Livingstone ซึ่งเป็นเมืองในเขตประเทศแซมเบีย เมื่อถึงสนามบินท่านจะเดินทางโดยรถต่อไปยังที่พักในเขตประเทศซิมบับเวย์ โดยการเดินทางจะใช้เวลาประมาณ 45 นาที

บ่าย

กําหนดถึงที่พักสุดหรูใกล้นํ้าตกวิคตอเรีย ฟอลส์ในช่วงบ่าย เมื่อมาถึงจะพอดีกับเวลารับประทานอาหารกลางวันมื้อพิเศษที่โรงแรม และเมื่อรับประทานเสร็จจะเป็นเวลาพักผ่อนตามอัธยาศัยของท่าน อิสระให้ท่านถ่ายภาพรอบๆ ที่พัก พักผ่อนที่สระนํ้าหรือเดินเล่นชมเมืองตามความต้องการ

ค่ำ

รับประทานอาหารคํ่า ณ ภัตตาคาร The Boma ลิ้มรสอาหารคํ่าตามแบบฉบับของแอฟริกัน โบม่าเป็นภัตตาคารที่ได้รับรางวัล ซึ่งท่านสามารถสัมผัสได้ถึงเอกลักษณ์ของความเป็นแอฟริกันทั้งรสชาติอาหาร, กลิ่นอาย, สีสัน, แสง สี เสียง และการบริการแบบแอฟริกันอย่างแท้จริง นอกนากนั้นท่านจะได้เพลิดเพลินไปกับการแสดงสุดพิเศษจากชุมชนท้องถิ่นอีกด้วย

วันที่ 9 : นํ้าตกวิคตอเรีย ฟอลส์

เที่ยวชมนํ้าตกวิคตอเรีย ฟอลส์
เที่ยวชมนํ้าตกวิคตอเรีย ฟอลส์ Listing Image

เช้า

หลังจากรับประทานอาหารเช้าที่โรงแรมเรียบร้อยแล้ว เราจํานําพาท่านเที่ยวชมนํ้าตกวิคตอเรีย ฟอลส์ นํ้าตกวิคตอเรีย ฟอลส์คือหนึ่งจุดหมายปลายทางในฝันของใครหลายๆ คน เกิดจากแม่นํ้า Zambezi ขนาด ใหญ่ทิ้งตัวลงสู่เบื้องล่างด้วยความสูง 100 เมตรไล่ระดับเป็นชั้น ขนาบข้างด้วยหน้าผาสูงชัน นับเป็นผลงานชิ้นเอกที่ธรรมชาติรังสรรค์ขึ้น นํ้าตกแห่งนี้ยังมีชื่อเรียกโดยชนเผ่า Tonga ที่แปลได้ว่า อวลหมอกที่ส่งเสียงคําราม (The smoke that thunders) มีที่มาจากละอองนํ้าตกจํานวนมหาศาลที่พรั่งพรูและกระเซ็นสายท่ามกลางป่าดงดิบชื้นรอบข้าง ซึ่งทั้งหมดตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติ บริเวณนี้ยังชุกชุมไปด้วยสัตว์ป่ามากมาย ไม่ว่าจะเป็นนกล่าเหยื่อที่บินร่อนเหนือหน้าผา ฮิปโปโปเตมัส ช้างป่า จระเข้ในแม่นํ้า และหากท่านโชคดี ตัวนากน้อยๆ อาจะโผล่ขึ้นมาให้ท่านได้ชม ณ ริมฝั่งแม่นํ้า

ปัจจุบันนํ้าตกวิคตอเรีย ฟอลส์ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นหนึ่งในมรดกโลก และได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลก ทางเราจะนําท่านชมจุดนํ้าตกที่มีชื่อ 4 จุดที่ไม่ควรพลาดคือ Devil's Cataract, Main Falls ที่มีหน้ากว้างของแผงนํ้าตกถึง 830 เมตร Hourse Shoe Falls ที่เป็นจุดที่ได้รับการยกย่องว่าสวยที่สุด ตัวนํ้าตกมีรูปคล้ายเกือกม้า มีความสูงถึง 95 เมตร และที่สุดคือ Rainbow Falls เป็นจุดที่นํ้าตกมีความสูงที่สุดถึง 108 เมตร ท่านจะได้สัมผัสความสวยงามและยิ่งใหญ่ของนํ้าตกนี้อย่างใกล้ชิด

บ่าย

นําท่านล่องเรื่อชมความงามของแม่นํ้าแซมเบซีพร้อมรับประทาณอาหารกลางวันบนเรือแม่นํ้าแซมเบซีมีสายนํ้าที่ทอดยาวจนสุดตา ซึ่งมี ความยาวเป็นอันดับ 4 ของทวีปแอฟริกา ได้รับการขนานนามว่า The Great River of Southern Africa ต้นกําเนิดของ นํ้าตกวิคตอเรีย เป็นแม่นํ้าที่มีความ ยาวถึง2,700 กิโลเมตร ไหลผ่าน ประเทศต่างๆ รวม 6 ประเทศคือ แซมเบีย แองโกล่า บอสวาน่า ซิมบับเว นามีเบียและสิ้นสุด ที่โมซัมบิคไหลลงสู่มหาสมุทรอินเดีย ระหว่างรับประทานอาหารท่านจะได้ชื่นชมความงดงาม ผ่อนคลายพร้อมชมทิวทัศน์สองข้างทางซึ่งเต็มไปด้วยป่าไม้เขียวชอุ่มตื่นตาตื่นใจกับบรรดาชีวิตสัตว์ป่าที่หาชมได้ยากอาทิ ฮิปโปโปเตมัส และนกนานาชนิดทั้งหมดนี้จะทําให้ท่านรู้สึกว่า 2 ชั่วโมง ที่ล่องเรือผ่านไปไวเหมือนสายลมพัดจนไม่ทันรู้สึกตัว นอกจากจะได้รับการยอมรับถึงความสวยงาม และความยิ่งใหญ่แล้วแซมเบซียังเป็นแม่นํ้าที่เป็นแหล่งแห่งความอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งอาหาร ของเหล่าสรรพสัตว์น้อยใหญ่ ทั้งสัตว์บกที่อาศัยอยู่ริมพงไพร และบรรดาสัตว์นํ้าต่างๆ รวมถึงผู้คนที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้ ที่ใช้เป็นเส้นทางการคมนาคมทางนํ้า เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สร้าง ชื่อเสียงและรายได้ที่สําคัญ และเป็นแหล่งผลิตพลังงานทางธรรมชาติด้วย ดังนั้นแม่นํ้าแห่งนี้ จึงได้รับอีกสมญานามว่าเป็น “THE RIVER OF LIFE” หรือ แม่นํ้าแห่งชีวิต

คํ่า

รับประทานอาหารคํ่า ณ ภัตตาคาร The Lookout Cafe หนึ่งใน 10 ร้านอาหารที่ดีที่สุดในซิมบับเวนอกจากอาหารที่ขึ้นชื่อถึงความเอร็ดอร่อยแล้ว ท่านยังจะได้ชมวิวนํ้าตกวิคตอเรีย ฟอลส์ สุดน่าประทับใจ

วันที่ 10 : นํ้าตกวิคตอเรีย ฟอลส์ - กรุงเทพฯ

เดินทางกลับสู่ประเทศไทย
เดินทางกลับสู่ประเทศไทย Listing Image

เช้า

รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม หลังอาหารเช้ามีเวลาให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยภายในโรงแรม หรือ ท่านสามารถเลือกซื้อทัวร์เสริม อาทิ กระโดดบันจี้จัมพ์จากสะพานวิคตอเรีย, นั่งเฮลิคอปเตอร์ชมวิวนํ้าตกวิคตอเรียจากมุมสูง หรือไมโครไลท์ ชมวิวธรรมชาติเหนือนํ้าตกวิคตอเรีย และอื่นๆอีกมากมาย

บ่าย - คํ่า

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร และเมื่อเวลาอันสมควรนําท่านเดินทางสู่สนามบิน

18:00 น.

ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินเคนย่า แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ KQ793/886 (แวะเปลี่ยนเครื่องที่กรุงไนโรบี เวลา 22.05 – 23.59 น.)

วันที่ 11 : กรุงเทพฯ

เดินทางกลับสู่ประเทศไทย

13:30 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพพร้อมความทรงจําที่ท่านจะประทับใจไม่รู้ลืม...

ปรึกษาทีมงาน

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและวางแผนทริปสุดพิเศษของท่านด้วยความช่วยเหลือจาก
ผู้เชี่ยวชาญ โทร 0117 313 3300

ทำไมต้องเลือกเวย์แฟเรอร์

นอกเหนือไปจากการทำให้แขกทุกท่านของเราได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในสถานที่พักชั้นเลิศ และดื่มด่ำกับจุดหมายปลายทางอย่างเต็มที่แล้ว หัวใจสำคัญของเวย์แฟเรอร์ยังรวมถึงเรื่องการท่องเที่ยวที่เปี่ยมด้วยความรับผิดชอบด้วยเช่นกัน

สถานที่ต่าง ๆ ในแผนการเดินทางนี้ได้รับการคัดเลือกมาเป็นอย่างดีว่าสอดคล้องกับเป้าหมายเรื่องการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนและรับผิดชอบ ร้านอาหารและไวน์ในเคปทาวน์ที่ท่านได้ลิ้มลองนั้นคือการสนับสนุนผู้ผลิตท้องถิ่นอีกทางหนึ่ง โรงแรมต่าง ๆ เองก็มีส่วนช่วยให้คนในพื้นที่ได้มีงานทำผ่านการจ้างงานเป็นพนักงาน

เขตอนุรักษ์ของ Greater Kruger นั้นบริหารงานด้วยเป้าหมายเรื่องความยั่งยืนและความรับผิดชอบต่อสังคมเเละสิ่งแวดล้อมเช่นกัน ท่านสามารถวางใจได้ว่าการเดินทางครั้งนี้จะมีส่วนช่วยเหลือพนักงานท้องถิ่นในเรื่องการศึกษาและช่วยป้องกันการล่าสัตว์อย่างผิดกฏหมาย

Why Wayfairer ทัวร์แอฟริกาใต้  (กรุ๊ป)

โทรหาเราได้ที่เบอร์ 0117 313 3300 เพื่อเริ่มวางแผนทริปท่องเที่ยวของท่าน

หรือ