โทรหาเราได้ตั้งแต่เวลา 9:30am: 0117 313 3300

แผนท่องเที่ยวแบบส่วนตัว เริ่มต้นที่ £273,000 ต่อครอบครัว (ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน)

8 วัน Christchurch, Tekapo, Queenstown, Dunedin

ทัวร์เกาะใต้แบบส่วนตัวจากการขับรถเองอย่างสะดวกสบายเที่ยวชมทุกสถานที่ไปกับครอบครัว

หนึ่งสัปดาห์เต็มกับการท่องเกาะใต้ของประเทศนิวซีแลนด์ ท่านจะได้เดินทางแบบส่วนตัวด้วยการขับรถตามแผนการเดินทางที่จัดขึ้นสำหรับท่านและครอบครัวโดยเฉพาะจากผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์

ทริปสุดพิเศษของท่านจะเริ่มต้นที่เมืองไครสต์เชิร์ช โดยท่านจะได้เที่ยวชมแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ในไครสต์เชิร์ชและต่อด้วยการเดินทางต่อไปยังทะเลสาบเทคาโป ท่านจะได้ชมน้ำสีเทอร์ควอยซ์ระยิบระยับในทะเลสาบเทคาโป  นอกจากนั้น ท่านจะได้ผ่อนคลายด้วยการแช่น้ำร้อนท่ามกลางธรรมชาติที่ Tekapo Springs

หากท่านเลือกเดินทางระหว่างช่วงเดือนมีนาคม - กันยายนท่านจะได้มีโอกาศพบเห็นแสงใต้อันงดงามที่หาดูไม่ได้ที่ไหน

ต่อจากนั้นท่านจะเดินทางไปยังควีนส์ทาวน์ และที่นี่คือช่วงไฮไลท์ของทริป ท่านจะได้ขึ้นเครื่องบินเล็กและร่องเรือชมความน่าอัศจรรย์ของมิลฟอร์ดซาวด์ ผจญภัยสุดมันด้วยการนั่งเรือเจ็ตโบ้ท เดินป่าชมสมส้ตว์อันหน้าตื่นเต้นพร้อมไกด์ที่มีความรู้ ไปจนกระทั่งขับรถตะลุยชนบทอันแสนงดงาม ท่านจะประทับอย่างไม่รู้ลืมกับการได้ใกล้ชิดกับสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ เดอะ ลอร์ด ออฟ เดอะ ริงส์ อีกด้วย

จากควีนส์ทาวน์ท่านจะเดินทางต่อไปยังเมืองประวัติศาสตร์แห่งดูนีดิน ท่านจะได้เที่ยวชมสถานที่อันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองนี้ เช่นสถานีรถไฟดูนีดินและปราสาทลาร์นาช และนากจากประวัติศาสตร์ที่เป็นจุดเด่นแล้ว เมื่องนี้ยังเป็นสถานที่ที่ท่านจะได้มีโอกาสได้เห็นเพนกวินตาเหลืองซึ่งเป็นเพนกวินสายพันธุ์ที่พบได้ยากที่สุดในโลก  และพนกวินน้อยสีน้ำเงินรวมถึงนกรอยัลอัลบาทรอส 

นอกจากการเดินทางเที่ยวชมสถานที่ขึ้นชื่อ ท่านจะได้เรียนรู้ถึงวัฒนธรรมความเป็นอยู่และชมการแสดงของคนชนเผ่าชาวเมารี ท่านจะได้รับประทานอาหารสไตล์ท้องถิ่นของชาวเมารีที่มีชื่อเรียกว่าแฮงงิ (hangi) ที่มีกรรมวิธีการทำแบบไม่เหมือนใคร

ในวันสุดท้ายก่อนทริปของท่านจะจบลง ท่านสามารถเลือกทำกิจกรรมได้ตามใจชอบ โดยทางเรามี 2 ตัวเลือกแนะนำคือ ทริปเที่ยวชมปลาวาฬที่เมืองไคคูร่า หรือ นั่งรถไฟทรานส์อัลไพน์ไปยังเมืองเกรย์เมาท์ ทั้งสองกิจกรรมล้วนแล้วจะสร้างความประทับใจให้แก่ท่านและครอบครัว

ราคานี้รวม :

  • บริการรับ-ส่งสนามบินแบบส่วนตัว
  • ที่พักทุกแห่งที่ระบุอยู่ในแผนการเดินทาง
  • รถรับส่งส่วนตัวสำหรับรับ-ส่งท่านไปกลับสนามบิน
  • เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลอย่างใกล้ชิดด้วยอัตราค่าบริการที่เป็นธรรม
  • รถเช่าขนาดใหญ่เหมาะสมสำหรับครอบครัวพร้อมประกันภัย
  • ตั๋วรถไฟทรานส์อัลไพน์หรือทริปเที่ยวชมปลาวาฬที่เมืองไคคูร่า
  • ค่าเข้าแช่น้ำร้อนที่ Tekapo Springs
  • ขึ้นเครื่องบินเล็กและร่องเรือชมมิลฟอร์ดซาวด์
  • นั่งเรือเจ็ตโบ้ท
  • เยี่ยมชม Ko Tane Living Maori Village

โทรหาเราได้ที่เบอร์ 0117 313 3300 เพื่อพูดคุยกับทีมงานผู้เชี่ยวชาญทางด้านออสตราเลเชียและเริ่มว่างแผนทริปท่องเที่ยวไปนิวซีแลนด์ของท่าน

หรือ

แผนการท่องเที่ยว

วันที่ 1 - 2 : ไครสต์เชิร์ช - ทะเลสาบเทคาโป

วันที่ 1 – บินมาถึงไครสต์เชิร์ช
วันที่ 1 – บินมาถึงไครสต์เชิร์ช Listing Image

หลังจากที่ท่านเดินทางมาถึงที่สนามบินไครสต์เชิร์ช ให้ท่านกรอกเอกสารเพื่อผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรพร้อมรับกระเป๋าสัมภาระของท่านให้เรียบร้อย จากนั้นให้ท่านติดต่อรับรถเช่าที่เค้าเตอนร์ Budget Rent A Car ตามเอกสารที่เราได้เตรียมไว้ให้ท่าน และจากนี้ ทริปในฝันของท่านกับการผจญภัยในประเทศนิวซีแลนด์ก็จะเริ่มต้นขึ้น...

หลังจากรับรถเรียบร้อยแล้ว ให้ท่านขับรถตามจีพีเอสเดินทางไปยังที่พัก Distinction Christchurch Hotel (ใช้เวลาประมาณ 20 นาที) ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองไครสต์เชิร์ช จากจุดนี้ท่านสามารถเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ของเมืองได้อย่างสะดวกสบาย ตั้งแต่จตุรัส Cathedral Square สวนพฤษศาสตร์ไครสต์เชิร์ช (Christchurch Botanic Gardens) รถรางชมเมือง (Christchurch tramway) แหล่งพายเรือล่องแม่น้ำเอวอน (Avon River) โรงละคร ร้านอาหาร คาเฟ่ ไปจนถึงแหล่งช้อปปิ้งใจกลางเมือง

วันนี้ท่านอาจจะใช้เวลาตลอดช่วงบ่ายในการตระเวนท่องเที่ยวไปทั่วเมืองซึ่งท่านสามารถบริหารเวลาได้ตามสะดวก หรืออาจจะเลือกพักผ่อนสบายๆ อยู่ในที่พักเพื่อผ่อนคลายหลังจากการเดินทาง

หมายเหตุ : กรุณาแสดงใบขับขี่สากลในการรับรถเช่าและพกใบขับขี่สากลทุกครั้งขณะขับรถ รถเช่าของท่านจะเป็นรถยนต์ Hyundai iMax หรือ Toyota Previa หรือเทียบเท่า ที่มาพร้อมอุปกรณ์นำทาง (GPS) และ ประกันภัย

วันที่ 2 – ออกจากไครสต์เชิร์ชและเดินทางสู่ทะเลสาบเทคาโป

หลังจากรับประทานอาหารเช้าที่โรงแรมเรียบร้อยแล้ว ท่านจะเริ่มต้นขับรถไปยังจุดหมายปลายทางแรกนั่นก็คือทะเลสาบเทคาโป (Lake Tekapo) ที่แสนมีเสน่ห์ การขับรถบนเส้นทางนี้ราบรื่นด้วยการขับไปบนทางหลวงอันเป็นเส้นทางหลักของที่นี่ ท่านสามารถขับตามจีพีเอส ได้อย่างง่ายดายและถึงจุดหมายปลายทางได้ภายในเวลา 3 ชั่วโมง จุดสังเกตเมื่อท่านใกล้จะถึงที่หมายท่านจะเริ่มเห็นน้ำสีเทอร์ควอยซ์ในทะเลสาบเทคาโป (Lake Tekapo) ระยิบระยับอยู่ไกลลิบๆ และมีเทือกเขาอันยิ่งใหญ่เป็นฉากหลังอย่างงดงาม

เมื่อถึงที่หมายเรียบร้อยแล้ว เราแนะนำให้ท่านไปเยือนโบสถ์ที่มีชื่อเสียงอย่าง The Church of the Good Shepherd ซึ่งเป็นโบสถ์ริมทะเลสาบอันเป็นสัญลักษณ์สำคัญของที่นี่ จากนั้นท่านสามารถที่จะขับขึ้นไปเที่ยวยังอุทยานแห่งชาติอโอรากิ/เขาคุก (Aoraki/Mount Cook National Park) หรือจะเลือกไปผ่อนคลายสบายๆ ยามบ่ายที่แหล่งแช่น้ำร้อน Tekapo Springs

Tekapo Springs รีสอร์ทแหล่งแช่น้ำร้อนท่ามกลางธรรมชาตินี้มีบริการสระน้ำร้อนกลางแจ้ง 3 สระใหญ่ด้วยกัน แต่ละสระจะเล่นระดับลดหลั่นเป็นชั้นๆ ลงมาตามแนวตีนเขาหิวแกรย์แวก (Greywacke Rock) รายล้อมไปด้วยป่าสนท้องถิ่น อุณหภูมิน้ำในสระจะอยู่ระหว่าง 36-40 องศาเซลเซียส บริเวณขอบสระยังเป็นม้านั่งในตัวที่จะให้ท่านได้นั่งแช่น้ำร้อนผ่อนคลายได้อย่างสบายใจ การออกแบบแต่ละสระนั้นถอดแบบมาจากรูปร่างของทะเลสาบท้องถิ่นทั้ง 3 แห่ง (ทะเลสาบโอเฮา (Lake Ohau), ทะเลสาบพูคากิ (Lake Pukaki) และ ทะเลสาบเทคาโป) อย่างมีเอกลักษณ์ ท่านจะได้ผ่อนคลายท่ามกลางวิวอันแสนวิเศษเหนือทะเลสาบเทคาโป ที่เบื้องหลังเป็นทิวเขาทูทัมบ์เรนจ์ (Two Thumb Range) อันแสนงดงาม ในระหว่างช่วงฤดูหนาวนั้นเป็นเรื่องธรรมดาที่ท่านจะเห็นหิมะอยู่รอบบริเวณบ่อน้ำร้อนนี้ แต่นั่นก็เป็นเสมือนประสบการณ์พิเศษในฤดูหนาวที่ท่านไม่ควรพลาด 

ในช่วงค่ำของวันนี้ท่านจะได้เข้าพักที่ Peppers Bluewater Resort อันหรูหรา เวลานี้ท่านมีโอกาสที่จะได้นั่งมองดาวบนท้องฟ้าที่เปล่งประกายอย่างงดงาม ตลอดจนสัมผัสกับเสน่ห์แสงใต้ (Southern Lights) ซึ่งบริเวณทะเลสาบเทคาโปนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของจุดชมความงดงามบนท้องฟ้าในยามค่ำคืนที่ยอดเยี่ยมซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนให้อยู่ในการบันทึก Dark-Sky Preserve (DSP) แหล่งอนุรักษ์ท้องฟ้ายามค่ำคืน จากองค์กรนานาชาติ International Dark-Sky Association (IDA) อีกด้วย นอกจากนี้เรายังขอแนะนำให้ท่านขับรถขึ้นเขาไปเฝ้าชมความมหัศจรรย์บนท้องฟ้ากันที่หอดูดาว University Mount John Observatory (หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ University of Canterbury Mount John Observatory : UCMJO) บนภูเขาเมาท์จอห์น (Mount John) ซึ่งใช้เวลาเดินทางจากที่พักของท่านเพียง 10 นาที

Day 3 - 5 : ควีนส์ทาวน์ - ดูนีดิน

วันที่ 3 - เดินทางออกจากทะเลสาบเทคาโปมุ่งสู่เมืองควีนส์ทาวน์
วันที่ 3 - เดินทางออกจากทะเลสาบเทคาโปมุ่งสู่เมืองควีนส์ทาวน์ Listing Image

เมื่อท่านเดินทางมาถึงควีนส์ทาวน์แล้ว ท่านจะได้เข้าพักที่ Queenstown House Boutique BB หลังจากที่ท่านเช็คอินในช่วงเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ในเวลา 12.00 น. จะมีรถมารอรับท่าน ณ ที่พักไปส่งยังสนามบินควีนส์ทาวน์เพื่อเดินทางไปเยือนมิลฟอร์ดซาวด์ (Milford Sound) ตลอดเส้นทางการบินท่านจะได้ดื่มด่ำกับวิวของขุนเขาสลับซับซ้อนสุดลูกหูลูกตาที่ปกคลุมไปด้วยผืนป่าเขียวชะอุ่มและปิดท้ายด้วยวิวสวยๆ ของมิลฟอร์ดซาวด์อันลือชื่อ เมื่อเครื่องบินลงจอดที่สนามบินมิลฟอร์ดซาวด์เรียบร้อยแล้ว จะมีรถโคชมารับท่านไปยังท่าเรือบริเวณอ่าวมิลฟอร์ดซาวด์เพื่อที่จะลงเรือล่องชมธรรมชาติโดยเริ่มตั้งแต่บริเวณมิลฟอร์ดซาวด์ไปจนถึงทะเลแทสมันตลอดเส้นทางการล่องเรือนี้ท่านจะมีความสุขไปกับการชมความงามของน้ำตกหลากหลายแห่ง ป่าไม้เขียวขจี ขุนเขาอันตระหง่าน รวมถึงวิถีชีวิตสัตว์ป่าในธรรมชาติ ซึ่งบนเรือนั้นจะมีการบรรยายความรู้ประกอบไปตลอดเส้นทางการล่องเรืออีกด้วย หลังจากจบการล่องเรือแล้วจะกลับมาขึ้นฝั่งที่ท่าเรือบริเวณอ่าวมิลฟอร์ดซาวด์อีกครั้ง จากนั้นจะนำท่านเดินทางกลับสู่สนามบินมิลฟอร์ดซาวด์เพื่อบินกลับไปยังควีนส์ทาวน์ และเมื่อบินกลับมาถึงสนามบินควีนส์ทาวน์เรียบร้อยแล้วก็จะมีรถมารับท่านกลับไปส่งยังที่พักซึ่งจะถึงราวช่วงเวลา 15.40 น.

ทางเลือกเพิ่มเติม : หากวันนี้ท่านต้องการที่จะปรับเปลี่ยนโปรแกรมไปสนุกกับกิจกรรมกลางแจ้งอื่นๆ แทน อาทิ กระโดดบันจี้จั้ม (Bungy Jump), กระโดดร่มชูชีพ (skydiving), ล่องเรือเร็ว (Jetboat) หรือ เล่นเครื่องร่อน (Paragliding) สามารถแจ้งความประสงค์ล่วงหน้าได้ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ที่ดูแลเรื่องการท่องเที่ยวจะดำเนินการเปลี่ยนแปลงให้ตามความต้องการของท่านได้เช่นกัน

วันที่ 4 : ผจญภัยในควีนส์ทาวน์
Aerial view of sunset in Queenstown, New Zealand

หลังจากที่รับประทานอาหารเช้าอันแสนอร่อยในที่พักของท่านเรียบร้อยแล้ว ในเวลา 12.00 น. จะมีรถมารอรับท่านเพื่อออกไปสนุกกับกิจกรรมด้วยการตะลุยท่องควีนส์ทาวน์ (Queenstown) เมืองที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองหลวงแห่งกิจกรรมแอดเวนเจอร์ของนิวซีแลนด์

ในวันนี้ท่านจะได้ผจญภัยไปกับหลากกิจกรรมที่เหนือความคาดหมาย ที่รวมถึงการนั่งเรือเจ็ตโบ้ท การเดินป่าพร้อมไกด์ที่มีความรู้ ไปจนกระทั่งขับรถตะลุยชนบทอันแสนงดงาม ท่านจะอยู่ท่ามกลางการรายล้อมของขุนเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะอันน่าทึ่ง หุบเขาที่ซ่อนเร้นความงดงามไว้ น้ำตกและธารน้ำแข็งสุดมหัศจรรย์ นอกจากนี้ท่านยังจะได้ตื่นเต้นไปกับนั่งเรือเจ็ตโบ้ทลัดเลาะไปตามช่องแคบต่างๆ ที่เป็นแขนงย่อยของของแม่น้ำดาร์ท (Dart Rivers) ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงเส้นทางอยู่ตลอดวเลา และคนขับเรือยังจะจอดยังจุดไฮไลท์น่าสนใจต่างๆ พร้อมชวนพูดคุยถึงธรรมชาติตลอดจนวัฒนธรรมของแหล่งท่องเที่ยวน่าอัศจรรย์ในบริเวณนี้ด้วย จากนั้นไกด์จะพาท่านเพลิดเพลินไปกับการเดินท่องป่าบีช (Beech Forest) ซึ่งเป็นป่าดึกดําบรรพ์ท้องถิ่นอันอุดมสมบูณ์ที่ท่านยังจะได้หลงใหลไปกับพรรณพืชแปลกตาและสัตว์เฉพาะถิ่นหลากพันธุ์ไปพร้อมกับการค้นพบเหตุผลที่ว่าทำไมนิวซีแลนด์จึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์ในโลกยุคนี้ที่ทุกอย่างเสมือนมาจาก “เรือโนอา (Ark)” ที่ล่องมาจากยุคมหาทวีปกอนด์วานาโบราณ (Gondwanaland) เลยทีเดียว จากนั้นต่อด้วยการเดินทางโดยรถบัสส่วนตัวที่แสนสะดวกสบายไปตามเส้นทางที่ลัดเลาะไปยังดินแดนห่างใกลความเจริญซึ่งเราจะได้ยินเรื่องราวมากมายรายรอบชนบทแห่งนี้ 

และหยุดดื่มด่ำกับวิวทิวทัศน์ธรรมชาติอันงดงามของนิวซีแลนด์ที่กลายเป็นฉากสวยๆ ในภาพยนตร์ระดับนานาชาติหลายต่อหลายเรื่องรวมไปถึงภาพยนตร์มหากาพย์ไตรภาคอันยิ่งใหญ่อย่าง เดอะ ลอร์ด ออฟ เดอะ ริงส์ (The Lord of the Rings) ด้วยนั่นเองเมื่อเสร็จกิจกรรมแล้วรถจะพาท่านกลับมาส่งยังที่พักซึ่งจะถึงราวช่วงเวลา 18.00 น.

ค่ำคืนนี้เราแนะนำให้ท่านออกไปท่องราตรีในเมืองควีนส์ทาวน์ด้วยตัวท่านเอง ท่านสามารถแวะลิ้มลองความอร่อยมื้อค่ำกันที่ร้าน Fergburger ซึ่งล่ำลือกันว่านี่คือเบอร์เกอร์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก (รายการนี้ไม่ได้รวมอยู่ในแพกเก็จของท่าน) ร้านชื่อดังนี้อาจต้องเผื่อเวลาต่อคิวรอสั่งอาหารไม่น้อยกว่า 20 นาที เพราะที่นี่ไม่ใช่แค่สถานที่ที่จะมาทานอาหารเท่านั้น แต่มันยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวไฮไลท์ยอดฮิตในตัวที่ใครๆ ก็อยากแวะมาลองอีกด้วย

วันที่ 5 : ควีนส์ทาวน์ - ดูนีดิน

หลังจากรับประทานอาหารเช้าที่โรงแรมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ท่านจะออกเดินทางเพื่อขับรถมุ่งหน้าไปยังเมืองประวัติศาสตร์แห่งดูนีดิน (Dunedin)

ดูนีดินเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองบนเกาะใต้ของนิวซีแลนด์ เมืองนี้เต็มไปด้วยอาคารเก่าแก่ที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์มากมาย โบสถ์อันโอ่อ่าหลายหลัง บ้านเรือนที่งดงามวิจิตรไปทั่วพื้นที่ ตลอดจนโรงแรมที่หรูหราอลังการอีกหลายแห่ง รวมถึงปราสาทโบราณอันตระการตาด้วย

หากท่านมาถึงดูนีดินแล้ว ท่านต้องไม่พลาดที่จะไปเยือนสถานีรถไฟดูนีดิน (Dunedin railway station) เพื่อที่จะไปถ่ายรูปคู่กับสถาปัตยกรรมเก่าแก่อันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวซึ่งที่นี่คือจุดถ่ายรูปที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในนิวซีแลนด์เลยก็ว่าได้ อย่าเพียงแค่ตื่นตะลึงกับสถาปัตยกรรมภายนอกที่งดงามเท่านั้น

ท่านต้องไม่ลืมที่จะเข้าไปสัมผัสกับความงดงามภายในที่แสนคลาสสิกด้วย รวมไปถึงแวะช้อปปิ้งในร้านของที่ระลึก และห้ามพลาดที่จะแวะไปชมศิลปะประดับกระจกสีรูปรถไฟอันถือเป็นเอกลักษณ์ประจำสถานีแห่งนี้ที่ประณีตสวยงามอย่างยิ่ง

จากนั้นเดินทางต่อไปยังปราสาทลาร์นาช (Larnach Castle) ซึ่งใช้เวลาขับรถไปประมาณ 20 นาที เพื่อไปชมปราสาทหนึ่งเดียวในนิวซีแลนด์ ที่นี่ท่านยังสามารถเลือกใช้บริการไกด์ทัวร์ในการพาชมปราสาทได้ (ไม่รวมในแพกเก็จ) หรือจะเลือกเดินซึมซับความสวยงามของการตกแต่งภายในไปจนถึงสถาปัตยกรรม ตลอดจนเดินเล่นชมสวนได้ด้วยตัวท่านเอง

วันแห่งความสุขในดูนีดินของท่านยังไม่จบเพียงแค่นี้เสียทีเดียว ท่านยังสามารถขับรถท่องเที่ยวต่อไปยังบริเวณคาบสมุทรโอทาโก (Otago Peninsula) ซึ่งจุดนี้ท่านจะได้สัมผัสกับสัตว์โลกหายาก ที่นี่ท่านจะมีโอกาสได้เห็นเพนกวินตาเหลือง (Yellow-eyed Penguin) ซึ่งเป็นเพนกวินสายพันธุ์ที่พบได้ยากที่สุดในโลก (มีอยู่ประมาณ 5,000 ตัวเท่านั้น) หรือแม้แต่เจ้าเพนกวินน้อยสีน้ำเงิน (Little Blue Penguin) ที่ถือว่าเป็นเพนกวินสายพันธ์ที่ตัวเล็กที่สุดในโลกอีกด้วย นอกจากนี้หากขับรถจากคาบสมุทรโอทาโกไปอีกเพียง 10 นาที ก็จะถึงยังอ่าวแซนด์ฟลาย (Sandfly Bay) ซึ่งนี่เป็นแหล่งชมเหล่าเพนกวินหายากที่ยอดเยี่ยมที่สุดอีกแห่ง และถ้าวันนี้เป็นวันโชคดีของท่านท่านก็อาจจะได้เห็นบรรดาเจ้าสิงโตทะเลในบริเวณนี้ด้วยเช่นกัน

ถ้ายังพอมีเวลาเหลืออย่างน้อยอีกสัก 25 นาที ให้ท่านขับรถต่อไปยังศูนย์นกรอยัลอัลบาทรอส (Royal Albatross Center) เพื่อเยี่ยมชมดินแดนแห่งการผสมพันธุ์บนแผ่นดินใหญ่หนึ่งเดียวในโลก ซึ่งเวลาที่ดีที่สุดที่จะเฝ้าดูการผสมพันธุ์นั้นก็คือช่วงยามเย็นที่ฝูงนกทั้งหลายจะบินกลับจากทะเลเข้ามายังฝั่งอีกครั้งเมื่อดวงอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้านั่นเอง

วันที่ 6 - 7 : ดูนีดิน - ไครสต์เชิร์ช

วันที่ 6 : ดูนีดิน - ไครสต์เชิร์ช

วันนี้จะเป็นวันที่ท่านขับรถชมวิวทิวทัศน์กลับมายังไครสต์เชิร์ชอีกครั้ง หลังจากที่มาถึงตัวเมืองแล้วท่านสามารถใช้เวลาพักผ่อนได้อย่างอิสระหรือจะตะลุยช้อปปิ้งในเมืองตลอดจนตระเวนซื้อของขวัญของที่ระลึกตามอัธยาศัย

ในเวลา 16:30 น. จะมีรถมารับท่านและพาท่านและครอบครัวไปเยี่ยมชม Ko Tane Living Maori Village เพื่อเรียนรู้วัฒนธรรม ความเป็นอยู่ และชมการแสดงของคนชนเผ่าชาวเมารี ในคืนนี้ท่านจะได้รับประทานอาหารสไตล์ท้องถิ่นของชาวเมารีที่มีชื่อเรียกว่าแฮงงิ (hangi) โดยอาหารนั้นจะมีเอกลักษณ์พิเศษด้วยกรรมวิธีการทำค่อนข้างยุ่งยาก แต่ก็ได้มาซึ่งรสชาติที่คุ้มค่าน่าลิ้มลอง ขั้นตอนก็คือ ขุดหลุมลึกประมาณเข่า จากนั้นเผาหินให้ร้อนระอุ แล้วนำลงไปอบพร้อมกับตะแกรงหมู ไก่ มันฝรั่ง และผักต่างๆ จากนั้นก็ปิดปากหลุมด้วยผ้าขาว แล้วกลบดินทับอีกครั้ง รอจนถึงเวลาเหมาะสม ก็นำวัตถุดิบที่ว่าขึ้นมาทานได้เลย และนอกจากนั้นท่านยังจะเพลิดเพลินกับการชมการเต้นฮากา (haka) อันลือชื่อที่เป็นประเพณีอันเก่าแก่ของคนนิวซีแลนด์ที่ยังสืบทอดมาจนปัจจุบัน ก่อนกลับที่พักท่านยังจะได้แวะชมนกกีวีอย่างใกล้ชิดและรถจะนำท่านมาส่งกลับที่พักในเวลาประมาณ 20.00 น.

วันที่ 7 : เดย์ทริปนอกเมืองไครสต์เชิร์ช
วันที่ 7 : เดย์ทริปนอกเมืองไครสต์เชิร์ช Listing Image

ทางเลือกที่หนึ่ง - ทริปเที่ยวชมปลาวาฬที่เมืองไคคูร่า

ทางเลือกที่สอง - นั่งรถไฟทรานส์อัลไพน์ไปยังเมืองเกรย์เมาท์

คือวันสุดท้ายของท่านที่จะได้สำรวจประเทศที่สุดแสนมหัศจรรย์แห่งนี้ ท่านสามารถที่จะเลือกไปทริปเฝ้าดูวาฬที่ไคคูร่า(Kaikoura) ตลอดทั้งวัน หรือเลือกที่จะเที่ยวแบบชิลล์ๆ ด้วยการนั่งรถไฟทรานส์อัลไพน์ (TranzAlpine) จากไครสต์เชิร์ชไปเที่ยวยังเมืองเกรย์เมาท์ (Greymouth) ก็ได้...

ถ้าท่านเลือกที่จะไปเฝ้าดูวาฬ วันนี้ท่านจะได้ใช้เวลาทั้งวันอยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ จะมีรถไปรับท่านถึงที่พักจากนั้นจะเดินทางไปตามเส้นทางที่ทอดผ่านดินแดนแห่งขุนเขาอย่างนอร์ธแคนเทอเบอรี่ (North Canterbury) ผ่านทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ในแถบชนบทกที่แสนสวยงาม จนกระทั่งเดินทางมาถึงไคคูร่าจุดที่ภูเขาจะมาบรรจบกับทะเลนั่นเอง สำหรับไคคัวระนี้เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงระดับโลกในเรื่องแหล่งธรรมชาติที่มีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมทางทะเล (Marine Mammals) อาศัยอยู่หลากหลายชนิด ที่นี่ท่านสามารถที่จะเห็นฝูงวาฬสเปิร์ม (Sperm Whales) ตัวยักษ์ ไปจนถึงฝูงโลมาสายพันธุ์ที่เก่งกายกรรมบนผืนน้ำอย่างเจ้าโลมาดัสกี (Dusky Dolphins) ด้วย เมื่อมาถึงยังไคคัวระท่านจะได้ลงเรือล่องมหาสมุทรเพื่อร่วมทัวร์เฝ้าชมวาฬ (Whale Watch Tour) อิ่มเอมกับมื้อเที่ยงที่ฟลูเคส คาเฟ่ (Flukes Cafe) ก่อนที่จะไปเยี่ยมเยือนอาณาจักรแมวน้ำซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่ของแมวน้ำพันธุ์มีขน (Fur Seals) ที่เราอาจเผชิญหน้ากับมันได้อย่างใกล้ชิด ระหว่างเดินทางกลับไปยังเมืองไครสต์เชิร์ชท่านยังจะได้แวะพักจิบไวน์ที่ไร่องุ่นในแถบนอร์ธแคนเทอเบอรี่อีกด้วย

หากท่านเลือกตัวเลือกทรานส์อัลไพน์ให้ท่านเดินท่างไปยังสถานีรถไฟเพื่อไปเช็คอินที่เคาน์เตอร์จำหน่ายบัตรตามเอกสารที่เราเตรียมไว้ให้ท่าน The Great Journeys of New Zealand ของ KiwiRail (การรถไฟแห่งประเทศนิวซีแลนด์) ที่ตั้งอยู่บนถนนทรูปไดรฟ์ (Troup Drive) ในเมืองไครสต์เชิร์ชเสียก่อน ซึ่งตารางเดินรถของรถไฟสายทรานส์อัลไพน์นั้นจะเริ่มออกจากไครสต์เชิร์ชในเวลา 08.15 น. สำหรับรถไฟสายทรานส์อัลไพน์นี้ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในเส้นทางการเดินทางด้วยรถไฟที่มีทิวทัศน์งดงามยอดเยี่ยมระดับโลก วันนี้ท่านจะได้เดินทางแบบไป-กลับจากเมืองไครสต์เชิร์ชสู่เมืองเกรย์เมาท์

จากห้องโดยสารของท่านท่านจะได้เห็นวิวที่ราบลุ่มแคนเทอเบอรี่ (Canterbury Plains) และฟาร์มเลี้ยงสัตว์ที่แสนสวยงาม ตามด้วยวิวของโตรกธารไปจนถึงที่ราบลุ่มริมแม่น้ำแถบแม่น้ำไวมาการีรี่  (Waimakariri River) ที่สวยงามน่าประทับใจ จากนั้นรถไฟจะเริ่มไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆ สู่แนวเขาเซาท์เทิร์นแอลป์ (Southern Alps) แล้ววิ่งไปยังสุดขอบของเกาะใต้จนถึงเมืองเกรย์เมาท์นั่นเอง การเดินทางด้วยรถไฟนี้มีความยาว 223.8 กิโลเมตรและใช้เวลาเพียงสี่ชั่วโมงครึ่ง มีอุโมงค์ทั้งหมด 19 อุโมงค์และสะพานอีก 4 แห่งที่มีความสูงที่สุดคือ 73 เมตรจากพื้นดิน

รถไฟทุกขบวนมีบริการที่นั่งทั้งแบบที่นั่งเดี่ยว (ที่หันไปทางเดียวกัน) และที่นั่งกลุ่มแบบมีโต๊ะอยู่ตรงกลาง (ที่หันเข้าหากัน) ซึ่งจะทำให้ท่านมีความสุขไปกับการชมวิวสวยสองข้างทางไปพร้อมกับพูดคุยแลกเปลี่ยนมิตรภาพระหว่างผู้ร่วมทางท่านอื่นๆ ได้ในเวลาเดียวกัน

รถไฟจะแล่นไปถึงเมืองเกรย์เมาท์ในเวลา 13.05 น. ที่นี่ท่านสามารถที่จะเดินเล่นพักผ่อนไปตามที่ต่างๆ ได้ด้วยตัวท่านเอง อาทิเช่น History House Museum,  Greymouth Flood Wall หรือเดินประมาณ 15 นาทีไปยัง Monteith’s Brewery เพื่อเยี่ยมชมโรงเบียร์ที่เก่าแก่ที่สุดในนิวซีแลนด์ ท่านมีเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงในการชิมเบียร์อันโด่งดังของประเทศนี้และรับประทานอาหารกลางวันตามอัธยาศัย ก่อนที่จะกลับมายั่งสถานีรถไฟอีกครั้งเพื่อโดยสารรถไฟสายทรานส์อัลไพน์เดินทางกลับไปยังเมืองไครสต์เชิร์ช ขบวนรถไฟจะออกจากเมืองเกรย์เมาท์ ในเวลา 14.05 น. และพาท่านเดินทางกลับถึงเมืองไครสต์เชิร์ชในเวลาประมาณ 18.31 น.

วันที่ 8 : เดินทางกลับกรุงเทพฯ

วันที่ 8 : เดินทางกลับกรุงเทพฯ

หลังจากรับประทานอาหารที่โรงแรมเรียบร้อยแล้ว ท่านสามารถเช็คเอาท์และเดินทางสู่สนามบินนานาชาติ

ไครสต์เชิร์ชเพื่อคืนรถเช่าได้ที่สนามบินและเช็คอินเที่ยวบินขากลัับกรุงเทพของท่าน

ทริปท่องเที่ยวเกาะใต้ประเทศนิวซีแลนด์ของท่านนั้นจบลงเพียงเท่านี้ ทางเราหวังว่าท่านได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ ความทรงจำที่ดี และมีเรื่องราวอันน่าประทับใจกลับไปอย่างล้นหลาม

ทางเวย์แฟเรอร์หวังว่าจะได้รับใช้ท่านในการเดินทางครั้งต่อไป

ปรึกษาทีมงาน

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและวางแผนทริปสุดพิเศษของท่านด้วยความช่วยเหลือจาก
ผู้เชี่ยวชาญ โทร 0117 313 3300

โทรหาเราได้ที่เบอร์ 0117 313 3300 เพื่อพูดคุยกับทีมงานผู้เชี่ยวชาญทางด้านออสตราเลเชียและเริ่มว่างแผนทริปท่องเที่ยวไปนิวซีแลนด์ของท่าน

หรือ