โทรหาเราได้ตั้งแต่เวลา 9:30am: 0117 313 3300

แผนท่องเที่ยวแบบส่วนตัว เริ่มต้นที่ £346,000 ต่อท่าน (ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน)

8 วัน South Shetland Islands, Antarctic Peninsula

ออกเดินทางสู่สุดขอบโลก อิ่มเอมไปกับหนึ่งสัปดาห์ที่แสนตื่นเต้น และงดงามราวกับมนตร์สะกดบนดินแดนขั้วโลกใต้

ขอเชิญทุกท่านท่องไปยังปราการสุดท้ายของขอบโลก ณ ทวีปแห่งที่เจ็ด อีกหนึ่งเช็คลิสท์จุดหมายปลายทางในฝันที่ใครหลายคนต่างหวังว่าสักวันจะได้มาเยือน ก้าวสู่ชายฝั่งน้ำแข็งของแอนตาร์กติกาด้วยการเดินทางสุดพิเศษโดยเครื่องบินเช่าเหมาลำจาก Punta Arenas ที่ประเทศชิลี โดยไม่ต้องเสียเวลาล่องเรือผ่านน่านน้ำ  Drake Passage

ขึ้นฝั่ง ณ เกาะ King George เกาะขนาดใหญ่ที่สุดในบริเวณหมู่เกาะ South Shetland ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์จำนวนไม่มากใกล้ศูนย์ค้นคว้าและวิจัย สำรวจชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในแถบนี้ก่อนขึ้นเรือมุ่งหน้าสู่ทวีปแอนตาร์กติกา

ล่องเรือฝ่าเปลวคลื่นระยิบระยับสีน้ำเงินเข้ม ภาพของแอนตาร์กติกาและภูเขาน้ำแข็งที่ลอยตระหง่านอยู่กลางผืนน้ำจะค่อย ๆ ปรากฏสู่สายตาของท่าน ก้าวลงสู่ผืนหิมะที่ปกคลุมทวีปลี้ลับและโลกมหัศจรรย์ที่น้อยคนนักจะย่างกรายเข้ามา

ช่วงเวลาสี่วันนี้ ท่านจะได้ออกสำรวจไปรอบ ๆ ชายฝั่งเพื่อชมปลาวาฬ เพนกวิน แมวน้ำ นกอัลบาทรอส และนกทะเลต่าง ๆ เรียนรู้ประวัติศาสตร์และภูมิประเทศอันน่าทึ่งของพื้นที่ในแถบนี้ รวมถึงเที่ยวชมภูมิทัศน์ของแอนตาร์กติกาที่ไม่มีที่ใดเหมือน

ท่านสามารถเลือกกิจกรรมคายัคหรือพายแพดเดิ้ลบอร์ดล่องลอยบนผืนน้ำภายใต้เงาของธารน้ำแข็งสูงตระหง่าน หรือท้าทายขีดจำกัดของตนเองด้วยการเดินบนหิมะและปีนภูเขาหิมะ ท่านยังสามารถเลือกพักค้างแรมในแคมป์บนทวีปแอนตาร์กติกาได้อีกด้วย ถือเป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่แปลกใหม่และยากจะลืมเลือน ส่วนท่านที่ชื่นชอบความสะดวกสบาย สามารถเลือกห้องพักบนเรือที่เปิดรับวิวทะเล พร้อมด้วยบาร์ ร้านอาหาร และการแนะนำข้อมูลต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์แก่การท่องเที่ยวโดยเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญบนเรือ

หากท่านมีเวลาจำกัดและไม่ต้องการเสียเวลาไปกับการท่องทะเล แอนตาร์กติกเอ็กซ์เพรสคือทางเลือกที่เหมาะเป็นอย่างยิ่งที่ท่านจะได้ดื่มด่ำไปกับเวทมนตร์แห่งแอนตาร์กติกาในการเดินทางระยะสั้นแต่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นตลอด 8 วันนี้

ราคานี้รวม :

  • บริการรับ-ส่งสนามบินแบบส่วนตัว
  • ที่พักพร้อมอาหารทุกมื้อบนเรือ และ ที่พักที่ในเมือง Punta Arenas
  • เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลอย่างใกล้ชิดด้วยค่าจ้างที่เป็นธรรม
  • ผู้นำเที่ยวท้องถิ่นมากประสบการณ์
  • นั่งเรือโซดิแอกชมวิวทิวทัศน์และทัศนียภาพที่สวยงามอย่างใกล้ชิด
  • เข้าศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งต่างบนเรื่อ
  • การเดินทางโดยเครื่องบินจาก Punta Arenas สู่ King George Island
  • ร้องเท้าบูทกันน้ำ
  • เสื้อกันหนาวพิเศษสำหรับใส่นอกเรือ

โทรหาเราได้ที่เบอร์ 0117 313 3300 เพื่อเริ่มวางแผนทริปท่องเที่ยวของท่าน

หรือ

แผนการท่องเที่ยว

วันที่ 1 : เดินทางสู่ Punta Arenas

วันที่ 1 : เดินทางสู่ Punta Arenas
Punta Arenas, Chile

เจ้าหน้าที่ของเราจะคอยตอนรับท่านที่สนามบิน Punta Arenas และพาท่านเดินทางต่อไปยังโรงแรมที่พัก ในตอนค่ำของวัน ท่านจะได้อิ่มเอมไปกับมื้ออาหารค่ำต้อนรับและพบกับหัวหน้าการเดินทาง เพื่อเตรียมตัวสำหรับการผจญภัยในวันรุ่งขึ้น

หากท่านเดินทางถึง Punta Arenas และมีเวลาเหลือเพียงพอ ที่นี่มีกิจกรรมมากมายให้ท่านได้ทำ ณ ดินแดนปลายสุดของประเทศชิลี อย่างเช่น เที่ยวชม Plaza Munoz Gamero บริเวณใจกลางเมือง จัตุรัสแห่งนี้มีอนุสาวรีย์ของ Ferdinand Magellan นักสำรวจชาวโปรตุเกสชื่อดังตั้งอยู่ รายรอบไปด้วยพื้นที่สีเขียวชอุ่ม หรือเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ Nao Victoria Museo ที่อยู่ด้านในเรือสำเภาจำลองขนาดใหญ่ของ Magellan

นอกจากนี้ ท่านยังสามารถเดินทอดน่องตามชายฝั่งไปยัง Costanera del Estrecho อนุสาวรีย์เรือรบที่มีรูปปั้นนางเงือกเป่าแตรสังข์เพื่อเตือนภัยแก่บรรดานักสำรวจ ระหว่างทางยังมีคาเฟ่มากมายให้ท่านได้แวะพักจิบเครื่องดื่มร้อน ๆ

หากเดินต่อไปเรื่อย ๆ ประมาณ 15 นาทีจาก Plaza de Armas ท่านจะพบกับ Mirador Cerro de la Cruz จุดชมวิวจากเนินเขาบริเวณรูปปั้นกางเขน บริเวณนี้สามารถมองเห็นตัวเมืองสีสันสดใสเรียงรายกันริมชายฝั่ง

วันที่ี 2 - บินสู่เกาะ King George

วันที่ 2 - บินสู่เกาะ King George
South Shetland Islands

ได้เวลาของการเดินทางข้าม Drake passage ที่ขึ้นชื่อลือชา แต่แทนที่การล่องเรือข้ามซึ่งชวนให้รู้สึกมวนท้อง เราจะพาท่านขึ้นเครื่องบินเช่าเหมาลำ จาก Punta Arenas ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ท่านจะได้เห็นทิวทัศน์ตระการตาของแอนตาร์กติกาจากมุมสูง เป็นจุดเริ่มต้นที่ตราตรึงสำหรับการผจญภัยบนทวีปนี้ในช่วงสัปดาห์ถัดจากนี้ไป

หลังจากเดินทางถึงโดยสวัสดิภาพ ท่านจะมีเวลาได้สำรวจพื้นที่บนเกาะใกล้ ๆ กับศูนย์สำรวจของชิลี ก่อนเดินทางด้วยเรือเร็วเพื่อไปขึ้นเรือโดยสารขนาดใหญ่ ซึ่งมีตัวเลือกทั้งเรือ Ocean Adventurer และเรือ World Explorer ทั้งสองลำต่างให้ความสะดวกสบายและความปลอดภัยชั้นเยี่ยมสำหรับการเดินสมุทร

ภายในเรือทั้งสองลำประกอบด้วยห้องพักที่สามารถมองเห็นวิวจากภายนอก ห้องน้ำส่วนตัว เลคเชอร์และการบรรยายในห้องประชุมแบบโรงภาพยนตร์ บาร์ ร้านอาหาร ห้องสมุดโพลาร์ คลีนิครักษาโรคพร้อมคุณหมอที่มีใบอนุญาต บริการซักอบรีด จุดชมวิวบนดาดฟ้าเรือ ห้องออกกำลังกาย โพลาร์บูทีค ลิฟต์สองตัวสำหรับเชื่อมดาดฟ้าส่วนต่างๆ และไวไฟในบางจุด

วันที่ 3 - 6: คาบสมุทรแอนตาร์กติกา

วันที่ 3 - ออกสำรวจคาบสมุทรแอนตาร์กติกา
Antarctic Peninsula icebergs in Paradise Bay

วันนี้ ท่านจะได้เดินตามรอยนักบุกเบิกผู้กล้าหาญรุ่นแรกที่เข้ามาสำรวจขั้วโลกใต้ เมื่อก้าวเข้าสู่เขตของแอนตาร์กติกา ท่านสามารถมองเห็นวิวของบริเวณ Great White Continent จากบนเรือ ได้เวลามองหาปลาวาฬและบรรดานกทะเลชนิดต่าง ๆ ทีมนักสำรวจผู้เชี่ยวชาญจะคอยส่งสัญญาณบอกท่านหากพวกเขามองเห็นสิ่งมีชีวิตที่น่าสนใจในบริเวณรอบ ๆ

นักบรรยายมากด้วยประสบการณ์บนเรือจะอธิบายถึงสิ่งมีชีวิตที่น่าทึ่ง ประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ของบริเวณนี้ รวมถึงคอยตอบคำถาม ข้อสงสัยต่าง ๆ หากท่านมี ที่น่าตื่นเต้นที่สุดก็คือ ในอีกสี่วันถัดจากนี้ไป ท่านจะได้ขึ้นฝั่งเพื่อท่องเที่ยวโดยอาศัยเรือยางขนาดใหญ่ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 4 ตัว พาท่านไปยังจุดสำรวจต่าง ๆ รอบคาบสมุทรเพื่อมองหาปลาวาฬ เดินบนชายหาดน้ำแข็งที่มีแมวน้ำนอนเล่นกระจัดกระจายเต็มพื้นที่ ปีนเขาไปเยี่ยมฝูงเพนกวิน ดื่มด่ำไปกับภูมิทัศน์ของภูเขาน้ำและธารน้ำแข็งที่ส่องประกายล้อแสงแดด

วันที่ 4 - สำรวจคาบสมุทรแอนตาร์กติกา

การออกสำรวจในแต่ละวันนั้นย่อมขึ้นอยู่กับสภาพอากาศที่ค่อนข้างแปรปรวนของแอนตาร์กติกา ในพื้นที่ห่างไกลที่ไร้มนุษย์ครอบครองเช่นนี้ ธรรมชาติคือผู้กำหนดทุกสิ่ง ท่านจะสามารถสัมผัสได้ถึงความบริสุทธิ์และพลังของธรรมชาติที่ไม่มีใครสามารถควบคุมได้

คาบสมุทรแถบนี้มีจุดขึ้นบกมากมายที่ให้บรรยากาศ ทิวทัศน์ และสิ่งมีชีวิตที่สามารถพบเจอได้แตกต่างกันออกไป เรารับรอบได้ว่าในทุก ๆ วันที่ท่านออกผจญภัยนั้นจะแตกต่างและไม่เคยซ้ำกันอย่างแน่นอน ไฮไลต์สำคัญอย่างเช่น ช่องแคบ Lemaire หรือที่รู้จักกันในนาม ‘Kodak Gap’ ช่องแคบนี้มีความยาว 11 กิโลเมตร ขั้นกลางระหว่างเกาะ Booth และคาบสมุทรแอนตาร์กติกา ถือเป็นหนึ่งในจุดที่สวยงามที่สุดของขั้วโลกใต้

สำหรับการชมสิ่งมีชีวิตตามธรรมชาติ เราจะพาท่านมุ่งหน้าไปยังเกาะ Half Moon เพื่อชมการวางไข่ของนกต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น shags, kelp gulls, skua, snowy sheathbills, chinstrap penguins, Wilson’s storm-petrels และ Antarctic terns 

บริเวณ Hannah Point คือสถานที่ที่ท่านจะได้พบกับอาณาจักรเพนกวิน gentoo, macaroni และ chinstraps ส่วน Turret Point คือที่ชายหาดอันเป็นที่อยู่ของแมวน้ำสายพันธุ์ต่าง ๆ ทั้ง Weddell, fur, southern elephant seals หมู่เกาะ Aitcho ยังเป็นพื้นที่พิเศษที่ท่านจะได้พบทั้งเพนกวินและแมวน้ำอยู่ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นเพนกวิน gentoo, chinstraps แมวน้ำ southern elephant และแมวน้ำ fur

วันที่ 5 - สำรวจคาบสมุทรแอนตาร์กติกา

การสำรวจขั้วโลกใต้ยังคงดำเนินต่อไปในวันนี้ ท่านที่ต้องการชมทิวทัศน์ที่สวยงาม แนะนำให้เดินทางไปยังอ่าว Neko บริเวณนี้เคยเป็นอู่ต่อเรือล่าปลาวาฬแบบลอยน้ำ หากเดินขึ้นเขาไปเรื่อย ๆ ท่านจะสามารถมองเห็นโครงกระดูกวาฬที่กลายมาเป็นที่หลบพักของเพนกวิน gentoo รวมถึงกระท่อมที่สร้างแบบหยาบ ๆ ของชาวอาร์เจนตินา เมื่อถึงยอดเขา ภาพของธารน้ำแข็งที่รายล้อมอ่าวแห่งนี้ย่อมทำให้ท่านหายเหนื่อยอย่างแน่นอน

อีกหนึ่งจุดสำคัญที่ไม่ควรพลาดคือเกาะ Petermann หลังการไต่เขาไปยังจุดยอดของเกาะ ท่านจะสามารถมองเห็นฝูงเพนกวินที่อาศัยอยู่ทางใต้สุดอย่างเพนกวิน gentoo , นก shags, นก south polar skuas และเพนกวิน Adelie

ท่านที่ชื่นชอบการถ่ายภาพเป็นชีวิตจิตใจ เราของแนะนำแหลม Baily หรือที่รู้จักกันในชื่อ Rancho Point แหลมแห่งนี้โอบล้อมเป็นลักษณะครึ่งวงกลมราวกับแอมฟิเธียเตอร์ที่รังสรรค์โดยฝีมือของธรรมชาติ เหมาะแก่การถ่ายภาพแลนด์สเคปเป็นอย่างยิ่ง ท่านยังสามารถพบเพนกวิน chinstraps ได้ในบริเวณนี้อีกด้วย

บริเวณ Waterboat Point นั้นยังเป็นพื้นที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ที่ท่านจะได้เห็นแคมป์สำรวจที่หลงเหลืออยู่ รวมถึง Port Lockroy อันเป็นฐานลับที่สร้างขึ้นช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นพิพิธภัณฑ์และที่ทำการไปรษณีย์ที่อยู่ใต้ที่สุดของโลก

วันที่ 6 - สำรวจคาบสมุทรแอนตาร์กติกา

วันสุดท้ายของการดื่มด่ำไปกับธรรมชาติบริสุทธิ์ในพื้นที่ห่างไกลแห่งนี้ หากสภาพอากาศเป็นใจ เราขอแนะนำกิจกรรมพายเรือคายัคไปยังทวีปแอนตาร์กติกา โดยมีหัวหน้าทีมเป็นไกด์ผู้ชำนาญ พร้อมด้วยสมาชิกไม่เกิน 16 ท่าน (กรุณาสำรองที่ล่วงหน้า) ดื่มด่ำกับประสบการณ์ของการค่อย ๆ ล่องพายเรือผ่านก้อนน้ำแข็งขนาดมหึมาและชมสัตว์ต่าง ๆ ที่ทำให้ดินแดนหิมะแห่งนี้มีชีวิตชีวาขึ้นมา

ผู้ที่ชื่นชอบความมหัศจรรย์ของธรรมชาตินั้นไม่ควรพลาดอ่าว Pendulum เป็นอย่างยิ่ง บริเวณนี้เป็นแหล่งน้ำพุร้อนธรรมชาติที่มีสาหร่ายสีเหลืองและเคย (boiled krill) ลอยอยู่บริเวณผิวน้ำ และที่อ่าว Whaler ท่านสามารถชมน้ำพุร้อนที่ปะทุขึ้นผ่านช่องเล็ก ๆ ชื่อ Neptune’s Bellows  ไม่ไกลยังเป็นที่อยู่ของเพนกวินและแมวน้ำ รวมถึงยังมีร่องรอยของการล่าปลาวาฬในอดีตที่หลงเหลืออยู่บนชายหาด หากท่านล่องเรือไปยังอ่าว Telefon ไกด์ของท่านจะชี้ให้เห็นภูเขาไฟที่เคยปะทุบนเกาะ Deception

วันที่ 7 - 8: PUNTA ARENAS

วันที่ 7 - บินสู่ Punta Arenas
วันที่ 7 - บินสู่ Punta Arenas Listing Image

หลังจากหนึ่งสัปดาห์ที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ไม่รู้ลืมของการได้ท่องเที่ยวและสำรวจแอนตาร์กติกา ถึงคราวกล่าวคำอำลาแก่ทีมนักสำรวจบนเรือ และโบยบินเหนือ Drake passage เพื่อกลับไปยัง Punta Arenas ท่านอาจยังได้เห็นปลาวาฬหรือนกทะเลส่งท้ายระหว่างการเดินทางระยะเวลา 3 ชั่วโมงนี้

เมื่อกลับถึง Puntas Arenas และเดินทางมายังโรงแรมที่พัก ท่านสามารถเลือกใช้เวลายามบ่ายไปกับการพักผ่อนภายในโรงแรม สำรวจตัวเมือง หรือสังสรรค์มื้ออาหารค่ำกับเพื่อนร่วมทางในทริป

เมือง Puntas Arenas นั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าตื่นตาตื่นใจมากมายจนท่านอาจรู้สึกอยากใช้เวลามากขึ้นในเมืองแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นอุทยานแห่งชาติ Alberto Agostini ซึ่งเป็นพื้นที่อนุรักษ์ที่ได้รับการประกาศจากยูเนสโกให้เป็นเขตสงวนชีวมณฑล (UNESCO biosphere reserve) ที่นี่คือเขตแดนที่เหมาะที่สุดสำหรับการชมความงามอันบริสุทธิ์ของธรรมชาติที่ไม่เคยถูกรุกล้ำหรือทำลาย เปี่ยมด้วยมนตร์สะกดอย่างแท้จริง

หากท่านชื่นชอบสัตว์ป่าตามธรรมชาติ ขอแนะนำให้ท่านมุ่งหน้าไปยัง Isla Magdalena เกาะแก่งขนาดเล็กนอกชายฝั่งซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องของนกเพนกวินจำนวนมาก หรือท่านที่สนใจเรื่องเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ป้อม Fuerte Bulnes ซึ่งก่อสร้างขึ้นในปีค.ศ. 1852 และอยู่ไม่ไกลจาก Punta Arenas เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการเที่ยวชมสั้น ๆ ในหนึ่งวัน

วันที่ 8 - ออกเดินทางจาก Punta Arenas

หลังมื้ออาหารเช้า ถึงเวลาของการเช็คเอ้าท์จากโรงแรมเพื่อเดินทางต่อไปยังจุดหมายส่วนตัวของท่าน ได้เวลาร่ำลาทริปแอนตาร์กติกเอ็กเพรสนี้แล้ว เรามั่นใจว่าท่านจะได้รับความทรงจำที่ดีที่จะคงอยู่ไปตราบนานเท่านาน รวมถึงเรื่องราวของสถานที่ต่าง ๆ ที่น้อยคนนักจะได้มาสัมผัสอย่างใกล้ชิด

หากท่านยังคงอยากผจญภัยต่อ เราขอแนะนำให้ท่านมุ่งหน้าขึ้นเหนือของประเทศชิลีหรือไปยังประเทศอาร์เจนติน่า ตัวเลือกที่น่าสนใจมีตั้งแต่การเดินเขา ณ ดินแดนปาตาโกเนีย ซึ่งเต็มไปด้วยภูมิประเทศอันสวยงามน่าตื่นตะลึงเช่นกัน หรือหากท่านอยากหลบลมหนาวไปสัมผัสสายลมอุ่น ๆ ริมทะเล ประเทศโคลอมเบียหรือชายหาดแสนสวยของประเทศคิวบานั้นก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ไม่ว่าท่านจะเดินทางต่อไปยังจุดหมายใด ผู้เชี่ยวชาญในการจัดทริปท่องเที่ยวระดับลักซ์ชัวรี่ของเรายินดีที่จะช่วยท่านวางแผนการเดินทางในทวีปอเมริกาใต้และพื้นที่อื่น ๆ

ปรึกษาทีมงาน

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและวางแผนทริปสุดพิเศษของท่านด้วยความช่วยเหลือจาก
ผู้เชี่ยวชาญ โทร 0117 313 3300

ทำไมต้องเลือกเวย์แฟเรอร์

เรือสำรวจ Quark Expeditions ships นั้นเป็นหนึ่งในสมาชิกขององค์กร International Association of Antarctica Tour Operators (IAATO) ซึ่งทาง Quark Expeditions ได้ดำเนินตามนโยบายและมุ่งเน้นเรื่องการดูแลรักษาธรรมชาติอย่างเคร่งครัด โดยพยายามลดทอนผลกระทบที่มีต่อจุดหมายปลายทางให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

บริษัทนี้เป็นบริษัททัวร์แห่งแรกที่นำเสนอการเดินทางแบบ Carbon Neutral เรือโดยสารทุกลำใช้ Marine Gas Oil (MGO) ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงสะอาด อาหารบนเรือนั้นเสิร์ฟเฉพาะอาหารทะเลที่ได้มาจากการประมงแบบยั่งยืนเท่านั้น บริการซักอบรีดที่ใช้น้ำยาซักผ้าแบบเป็นมิตรต่อธรรมชาติ รวมถึงผลิตภัณฑ์ภายในห้องน้ำที่เป็นมิตรต่อธรรมชาติเช่นกัน อีกทั้งยังไม่ใช้ขวดน้ำชนิดใช้แล้วทิ้ง บนเรือทุกลำนั้นแทบไม่ใช้กระดาษ ส่วนน้อยที่ใช้จะเป็นกระดาษประเภทรีไซเคิลได้ 100% ระบบการทิ้งขยะของเรือเองก็ยึดตามหลักสากลอย่างแน่วแน่

ลูกเรือทุกคนของ Quark Expeditions นั้นมีใจรักสิ่งแวดล้อมและพร้อมดูแลแขกทุกท่านให้ได้เข้าใจถึงจิตวิญญาณดังกล่าว ทุกท่านที่เดินทางด้วยเรือของทางบริษัทจะได้รับแจกไกด์ไลน์ของ IAATO ก่อนเดินทาง และจะมีการทำความเข้าใจถึงกฎและแนวทางเพื่อดูแลธรรมชาติอย่างยั่งยืนร่วมกัน

Why Wayfairer Antarctic Express

โทรหาเราได้ที่เบอร์ 0117 313 3300 เพื่อเริ่มวางแผนทริปท่องเที่ยวของท่าน

หรือ